เทคโนโลยีเสมือนจริง
(Virtual Reality หรือ VR)

Virtual reality เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยสร้างประสบการณ์ให้แก่ผู้ใช้เสมือนมีตัวตนอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สร้างขึ้นแบบดิจิทัล ทำให้พวกเขาสัมผัสประสบการณ์ภาพและเสียงที่แตกต่างกัน เว็บไซต์จองโรงแรม สามารถอนุญาตให้ผู้คนใช้เทคโนโลยี VR เพื่อสำรวจสถานที่พักผ่อนหย่อนใจเสมือนจริงของห้องพักในโรงแรม แทนที่จะอ่านคำอธิบายเพียงอย่างเดียว ลูกค้าจะสามารถสัมผัสประสบการณ์ห้องพักในโรงแรมด้วยตนเองได้มากขึ้นก่อนที่จะจอง บริษัทท่องเที่ยวสามารถช่วยให้ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าได้สัมผัสกับสภาพแวดล้อมของโรงแรม หรือแม้แต่สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงก่อนที่พวกเขาจะตัดสินใจผ่านเทคโนโลยี VR

Example: Atlantis Dubai Virtual Tour VR 360 Best viewed with VR glasses or a Google Cardboard Find more detailed information and examples about how virtual reality can benefit your business in the articles “How Virtual Reality is Transforming the Travel Industry” and “10 Amazing Examples of Virtual Reality Hotel Tours”.

เทคโนโลยี Augmented Reality
(AR)

เทคโนโลยีการผสมผสานโลกเสมือน (Virtual World) เพิ่มเข้าไปในโลกจริง (Physical World) มีความใกล้เคียงกับ VR แต่ต่างจาก VR ตรงที่แนวคิดพื้นฐานเบื้องหลัง AR คือการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อปรับเปลี่ยนประสบการณ์ของสภาพแวดล้อมในชีวิตจริง ซึ่งหมายความว่าสิ่งเหล่านั้นจะได้รับการปรับปรุงในทางใดทางหนึ่งเมื่อดูผ่านอุปกรณ์ที่รองรับ AR

ธุรกิจท่องเที่ยวมีการใช้เทคโนโลยีนี้มากขึ้น ซึ่งช่วยยกระดับประสบการณ์การเดินทาง หนึ่งในตัวอย่างที่มีอยู่ของ AR ในโรงแรมคือแผนที่ติดผนังซึ่งเมื่อดูผ่านแอพสมาร์ทโฟน จะให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่ผู้ใช้เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวในท้องถิ่นและวิธีการเดินทาง หรือให้แขกของโรงแรมถ่ายรูปตัวเองพร้อมกับการจำลองเสมือนจริงของบุคคลหรือตัวละครที่มีชื่อเสียง นอกจากนี้ยังช่วยให้แขกสามารถตกแต่งห้องพักในโรงแรมได้เสมือนจริง

นอกจากนี้ Augmented Reality ยังช่วยเพิ่มสภาพแวดล้อมภายนอกโรงแรมได้อีกด้วย วิธีนี้อาจทำให้ผู้มาเยี่ยมชมสามารถชี้โทรศัพท์ไปที่ร้านอาหารเพื่อดูรีวิว หรือชี้โทรศัพท์ไปที่สถานที่ท่องเที่ยวเก่าแก่ หรืออาคารเก่าแล้วมองเห็นสภาพที่เคยเป็นมา

Example: Augmented Reality Quest at the Best Western Kelowna Find more detailed information and examples about how augmented reality can benefit your business in the article “How Augmented Reality is Revolutionising the Travel Industry”.

ปัญญาประดิษฐ์
(Artificial Intelligence : AI)

เป็นการใช้คอมพิวเตอร์ทำงานแทนมนุษย์ เกดขึ้นจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ผสานกับข้อมูลที่มีอยู๋ ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถจัดการกับบุคคลและสถานการณ์ใดๆ ที่เกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการโต้ตอบหรือปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ได้ใกล้เคียงกับคนจริงๆ

งานบริการลูกค้าเป็นงานที่มีความสำคัญที่สุดในธุรกิจโรงแรม สามารถนำ AI มาใช้ได้ ทำให้สามารถบริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ไม่มีการพัก

นอกจากนี้ยังสามารถนำมาใช้กับการตอบข้อความกับลูกค้า โดยสามารถตอบสนองได้ทันที

Example: Meet Connie, Hilton Hotels’ First Robot Concierge

Metaverse

Metaverse หมายถึงการสร้างสภาพแวดล้อมเสมือนจริงหรือโลกดิจิทัล ซึ่งผู้คนสามารถสำรวจและใช้เพื่อโต้ตอบกับผู้ใช้รายอื่นๆ ได้ มักถูกเปรียบเทียบกับเทคโนโลยีความเป็นจริงเสมือน

อย่างไรก็ตาม Metaverse เป็นมากกว่า VR ธรรมดา ๆ และรวมถึง AR ฟังก์ชันโซเชียลมีเดีย และเทคโนโลยีบล็อกเชน ผู้ใช้สามารถเยี่ยมชมสภาพแวดล้อม metaverse ผ่านชุดหูฟัง VR หรือใช้อุปกรณ์ดิจิทัล เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ หรือคอนโซลเกม ผู้ใช้จะได้เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การเดินทางใหม่ที่สมบูรณ์แบบ

Metaverse ยังสามารถใช้เพื่อโต้ตอบกับตัวแทนการท่องเที่ยวหรือกับพนักงานต้อนรับของโรงแรมได้ ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้อาจสามารถสำรวจกิจกรรมดิจิทัลของโรงแรม ท่องเที่ยวในสภาพแวดล้อมนี้ และจองห้องพักในโรงแรมที่พวกเขาเยี่ยมชมได้

นอกจากนี้เทคโนโลยีนี้จะเข้ามาแทนที่การเดินทางบางรูปแบบ ในอนาคตอาจเป็นไปได้ที่จะสัมผัสประสบการณ์การอยู่บนยอดหอไอเฟลโดยไม่ต้องเดินทางไปปารีสเลย

Blockchain

เทคโนโลยีบล็อกเชนช่วยเปลี่ยนแปลงภาคการท่องเที่ยวได้อย่างมาก โดยจะการเก็บข้อมูลการทำธุรกรรมที่กระจายอำนาจโดยไม่มีผู้ควบคุมกลาง และบันทึกข้อมูลทั้งหมดในลักษณ์เหตุการณ์ข้อมูลดิจิทัลแบบกระจายและเข้ารหัสและธุรกรรมที่ดำเนินการหรือแบ่งปันระหว่างผู้เข้าร่วมในเครือข่าย ทำให้มีความโปร่งใส ปลอดภัย เชื่อถือได้ และทำงานร่วมกันได้ เนื่องจากบล็อคเชนไม่ได้เป็นของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นของทุกคน

เทคโนโลยีบล็อกเชนช่วยให้สามารถลงทะเบียนสัญญาจำนวนมากซ้ำๆกัน โดยนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ ทั่วโลก เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้ตัวกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งนี้สร้างโอกาสในการพัฒนาสัญญาอัจฉริยะหรือเอกสารระบุตัวตนดิจิทัล (ID) เดียวเพื่อรองรับกิจกรรมทางธุรกิจมากมายและการแลกเปลี่ยนระหว่างกัน
บล็อกเชนสามารถนำไปใช้ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ทั้งด้านการแลกเปลี่ยน การจัดหากระบวนการที่ดีขึ้นและต้นทุนที่ต่ำกว่า และยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า: การจองและการจองตั๋ว (โรงแรมและรถเช่า ประกันภัยและเที่ยวบิน) การจัดการข้อมูลประจำตัว (ข้อมูลประจำตัวของนักเดินทาง และการติดตามสัมภาระ) โปรแกรมสะสมคะแนน (ส่วนลดและสิ่งจูงใจหรือรางวัล) การชำระเงินดิจิทัล (การชำระเงินแบบดิจิทัลและธุรกิจต่อธุรกิจ) การจัดการข้อมูลประจำตัว (การตรวจสอบความถูกต้อง การจัดอันดับและการตรวจสอบ) และการจัดการสินค้าคงคลัง (การกระจายโดยตรง และเครือข่ายซัพพลายเออร์)